สิ้นตำนานหญิงนักสู้ ‘แม่กิมไล้’ ขนมหม้อแกงชื่อดังเมืองเพชรบุรี สิริอายุ 90 ปี
เมื่อวันที่ 23 เมษายน ปิดฉากชีวิตของ ‘แม่กิมไล้’ หรือนางไล้ บุญประเสริฐ หญิงนักสู้แห่งเมืองเพชรบุรีที่ทุกข์ยากมาตลอดชีวิต แต่สามารถสร้างตำนานขนมหม้อแกงไทยจนเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ ในวันเกิดการจากไปของเธอ เราได้ย้อนอดีตของผู้หญิงผู้มีความแข็งแกร่งนี้ ตั้งแต่วัยเยาว์จนถึงวันสุดท้ายที่เธอได้สร้างผลงานที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของหลายๆ คน
แม่กิมไล้เกิดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2477 ณ ตำบลบางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี ในครอบครัวที่ประกอบอาชีพทำขนมไทยขายริมแม่น้ำปากอ่าวบางตะบูน แม้ในวัยเยาว์ครอบครัวของเธอจะมีฐานะพอสมควร แต่ชีวิตของเธอไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เธอได้รับการศึกษาเพียงจบชั้นประถมศึกษา และเริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการขายขนมตั้งแต่ยังเด็ก
ความรักและการเริ่มต้นชีวิตคู่
แม่กิมไล้ได้พบรักกับจ.ส.ต.กลม บุญประเสริฐ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ด้วยความไม่เห็นด้วยของมารดาที่ต้องการให้เธอแต่งงานกับผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 22 ปี ทำให้เธอตัดสินใจหนีตามคนรักมาอยู่ที่เมืองเพชรบุรีเมื่ออายุได้ 18 ปี
การต่อสู้กับความยากจน
ในช่วงแรกของการอยู่ที่เพชรบุรี ชีวิตของแม่กิมไล้และครอบครัวมีความยากลำบากอย่างมาก เธอและสามีของเธอต้องดิ้นรนเพื่อเลี้ยงดูลูกทั้ง 7 คนในขณะที่รายได้จำกัด จากเดือนละเพียง 7.50 บาท ด้วยความที่เธอเรียนรู้การทำขนมจากมารดาตั้งแต่เด็ก เธอจึงเริ่มทำขนมขายเอง เริ่มจากขนมง่ายๆ อย่างขนมกล้วย ขนมเทียน และข้าวต้มมัด โดยหาบไปขายตามตลาดในเมืองเพชรบุรีตั้งแต่เช้าจนค่ำ
การเริ่มประสบความสำเร็จ
แม้ในระยะแรกจะมีอุปสรรคมากมาย แต่ด้วยความอดทนและพยายามอย่างหนัก แม่กิมไล้ก็เริ่มได้รับความนิยมจากขนมที่เธอทำขาย จากการหาบขนมขาย ขนมของเธอเริ่มเป็นที่รู้จักในตลาด จนเธอตัดสินใจใช้รถเข็นแทนการหาบ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มประสิทธิภาพในการขายของเธอ
การเปลี่ยนแนวทางและขยายธุรกิจ
แม่กิมไล้ไม่หยุดแค่การทำขนมแบบเดิมๆ แต่เธอได้หันมาทำขนมหวานอื่นๆ เช่น ทองหยิบ ฝอยทอง ลูกชุบ และขนมหม้อแกง การทดลองและปรับปรุงสูตรต่างๆ นานา เธอทำให้รสชาติของขนมหวานเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า ชื่อเสียงของเธอจึงเริ่มแพร่หลาย และได้รับการยอมรับจนกลายเป็นขนมหม้อแกงที่ได้รับรางวัล
การขยายกิจการและสร้างสาขา
ต่อมาในปี 2515 แม่กิมไล้เห็นโอกาสในการขยายกิจการ จึงได้เปิดร้านขายขนมหวานที่หน้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเพชรบุรี จากนั้นยังได้ขยายไปเปิดร้านขายของฝาก ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการ
ตอบรับที่ดีจากลูกค้าและนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ชื่อเสียงและคุณภาพของขนมของเธอยังทำให้หลายคนหลงใหล โดยเฉพาะขนมหม้อแกงที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวด ทำให้เธอเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
การรับรู้จากบุคคลสำคัญ
ความนิยมในขนมหม้อแกงของแม่กิมไล้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในเมืองเพชรบุรีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบุคคลสำคัญในรัฐบาลและทหารที่เดินทางมาเพชรบุรี รวมถึงผู้มีอิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจ ขนมของเธอถูกนำไปฝากกันในหมู่บุคคลเหล่านี้ ช่วยเพิ่มชื่อเสียงให้กับขนมหม้อแกงของเธอยิ่งขึ้น
การขยายสาขาและจุดสิ้นสุดของการเดินทาง
ด้วยความสำเร็จที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แม่กิมไล้ได้ขยายสาขาไปยังที่ต่างๆ รวมทั้งสิ้น 5 สาขา แต่ละสาขาตั้งอยู่ในจุดที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและลูกค้าจำนวนมาก การบริหารจัดการและการเติบโตของสาขาเหล่านี้ได้รับการช่วยเหลือจากลูกหลานที่เข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจ ช่วยให้แม่กิมไล้สามารถรักษามาตรฐานและคุณภาพของขนมที่ขึ้นชื่อได้อย่างต่อเนื่อง
การสิ้นสุดของตำนาน
แม่กิมไล้ได้จากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 22 เมษายน ณ ร้านขนมหม้อแกงแม่กิมไล้ สาขาท่ายาง สิริอายุ 90 ปี การจากไปของเธอทิ้งตำนานของผู้หญิงที่มีความแข็งแกร่ง ผู้ที่ได้สร้างสรรค์และรักษาวัฒนธรรมการทำขนมไทยที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของชาวเพชรบุรีและผู้คนทั่วไป แม่กิมไล้ไม่เพียงแค่สร้างขนมหวานที่อร่อยถูกใจผู้คน แต่เธอยังสามารถถ่ายทอดค่านิยมของความพากเพียร ความอดทน และความเข้มแข็งในการฝ่าฟันความยากลำบากมาได้ตลอดระยะเวลาที่เธอทำธุรกิจขนมหวาน
มรดกที่ตกทอด
การเสียชีวิตของแม่กิมไล้ไม่ได้หมายความว่าตำนานของเธอจะหายไป มรดกของเธอยังคงอยู่กับสูตรขนมที่เธอพัฒนา และธุรกิจที่เธอได้สร้างขึ้นมา ลูกหลานและผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเธอยังคงดำเนินการร้านขนมหม้อแกงและรักษาคุณภาพและมาตรฐานที่เธอได้วางไว้ เป็นการต่อยอดและรักษาวัฒนธรรมการทำขนมไทยให้คงอยู่สืบต่อไป
การรำลึกถึงแม่กิมไล้
ผู้คนในเมืองเพชรบุรีและทุกคนที่ได้รู้จักแม่กิมไล้จะจดจำเธอในฐานะผู้หญิงผู้มีอิทธิพลและเป็นแรงบันดาลใจในด้านการทำธุรกิจและการรักษาวัฒนธรรมอาหารไทย ตำนานของเธอยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คนที่ต้องการสร้างสรรค์และพัฒนาในสิ่งที่พวกเขารัก
แม่กิมไล้อาจจากไปแล้ว แต่สิ่งที่เธอสร้างขึ้นมายังคงอยู่กับเราตลอดไป ในรูปแบบของขนมหวานที่เต็มไปด้วยรสชาติและความทรงจำที่ดีที่เธอได้ทิ้งไว้ให้กับโลกของเรา